วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2559

ฟิ๊นซ์ซีร้า (Finch Zebra) ราคา ตัวละ 300 บาท หรือคู่ละ 450 บาท

เรื่องกรงของฟิ๊นซ์ซีร้า

         เท่าที่อ่านมาเขาบอกว่ากรงเล็กก็เลี้ยงได้ครับ แต่หากจะทำการเพาะพันธุ์ หรือ ขยายพันธุ์ได้ดี หรือ หวังผลได้ดีกว่าก็ควรที่จะใช้กรงใหญ่ๆ แต่สำหรับความคิดของผมแล้ว ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี เหมือนกับเราอยู่บ้านแหละครับ ก็อยากมีบ้านที่ใหญ่ๆ จะได้อยู่อย่างมีความสุข ยิ่งนกแล้วด้วยครับ เพราะ นกนี้เป็นสัตว์ที่มีอิสระครับ บินไปใหนมาใหนได้ ลองคิดดูว่า ถ้าสักวันหนึ่ง กลับต้องมาอยู่ในกรงแล้วหละก็ ควรจะให้กว้างๆไว้ครับ  เขาเล่าว่า(ขนาดกว้าง 0.60 ยาว 1.80 สูง 1.80 เมตร สำหรับนกหนึ่งคู่ขนาดกว้าง 1.20 ยาว 3.60 สูง 1.80 เมตร สำหรับนก 3 – 4 คู่)
         การดู แลในช่วง ฤดูฝน หรือ ฤดูหนาว ก็ควรจะมีที่กำบังป้องกันฝน และ ลมครับ ยิ่งเป็นช่วงที่เอานกใหม่เข้ามาเลียงต้องใช้ระยะเวลาในกาะปรับตัวครับ หากเจอสิ่งเหล่านี้จะทำให้ มีปัญหาเข้าไปใหญ่ครับ
- ฝน
- ป้องกันลมโกรก

เรื่องการทำความสะอาดกรง
เราก็หมั่นทำความสะอาดอยู่บ่อยๆครับ เพื่อสุขลักษณะ ของนกที่ดีครับ อ๋อรวมไปถึงถ้วยน้ำถ้วยอาหารด้วยนะครับ
เรื่องน้ำดืมควรที่จะเปลี่ยนให้นกทุกๆวันครับ

อาหารของนกฟินซ์
         อาหารของนกเจ็ดสี ส่วนใหญ่จะเป็นเมล็ดพืชขนาดเล็กมีหลายชนิด เช่น มิลเล็ต ข้าวไรน์ ข้าวฟ่างแดง – ดำ เป็นต้น อาหารที่ชอบมากของฟินช์เจ็ดสีก็คือ มิลเล็ตสเปรย์ ซึ่งมีลักษณะเป็นช่อยาว ผู้เลี้ยงควรนำไปแขวนไว้ภายในกรง เพื่อให้นกได้แทะกินอยู่เสมอ อัตราส่วนของอาหารที่จะผสมให้กับนกกินควรประกอบไปด้วย มิลเล็ต ข้าวไรน์ ข้าวฟ่างแดง ดำ ไนเจอร์(ให้โปรตีน) ผสมในอัตราส่วน 2 : 1 : 1 : 1 : 0.50
        ซีบร้าฟินซ์เป็นนกฟินซ์ที่สวยงามอีกชนิดหนึ่ง ลักษณะโครงสร้างของร่างกายจะคล้ายฟินซ์เจ็ดสี ต่างกันตรงที่สีของนก โดยสีดั้งเดิมของนกจะเป็นสีน้ำตาลเทา หน้าอกลายเหมือนม้าลาย (เป็นที่มาของชื่อ) แก้มมีสีสัน ปากมีสีส้มถึงแดง ร้องเพราะ กินน้อย ไม่สกปรกเลอะเทอะ ขยันออกไข่ฟักไข่ เลี้ยงลูกเก่ง ใช้ได้ทั้งปี (ในบ้านเรา) สามารถพัฒนา สีสันไปได้มากมาย พื้นฐานของนกถิ่นกำเนิดอยู่ที่ออสเตรเลียเช่นกัน ห้ามนำออกเหมือนกัน เพราะการดูแลของซีบร้าฟินซ์ดูจะง่ายกว่าฟินซ์เจ็ดสีหน่อย จึงสามารถขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว และมีสีสันสวยงามมากขึ้นใช้เวลาสั้นกว่า ดังนั้นซีบร้าฟินซ์จึงอยู๋ในกลุ่ม Grass Finches ซึ่งก็มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Taeniopygia guttata castanotis พฤติกรรมของนกชนิดนี้ชอบอยู่ด้วยกันเป็นฝูง ดังนั้นเวลาเราเพาะพันธุ์ได้ลูกนกแล้วส่วนใหญ่จะนำมาเลี้ยงรวมกันในกรงใหญ่ (Avisries)
           จากนั้นเมื่อนกแข็งแรงเข้าวัยหนุ่มแล้วค่อยนำไปเลี้ยงในกรงเพาะที่มีขนาดตั้งแต่กรงหมอนใหญ่ขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว อย่าลืมติดตั้งรังไข่ (กล่องไม้อัด) ซึ่งมีขายสำเร็จรูป หรือที่นกชนิดนี้ชอบจะเป็นตะกร้ารังไข่หวาย อาหารที่เลี้ยงเป็นหลักก็มี มิลเล็ตขาว มิลเล็ตแดง ข้าวไรน์ อาหารไข่ เกลือแร่ ที่ขาดเสียมิได้คืออาหารสดโดยใช้ข้าวโพดสดดีที่สุด และวิตามินแอคควาชอค นกซีบร้าฟินซ์จะเริ่มผสมพันธุ์เลือกคู่และเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดีได้อายุประมาณ 8 เดือน ถึง 1 ปี หลังจากจับคู่แล้วนกจะเริ่มวางไข่ เมื่อนกคุ้นเคยกับสถานที่ของตัวเองประมาณ 2-3 เดือน ก็จะไข่ ไข่ประมาณครอกละ 3-7 ฟอง ถ้ามากเกินไปโอกาสที่นกจะฟักได้ลูกทั้งหมดก็ค่อนข้างน้อย ให้คัดไข่ฝ่อและมีปัญหาออกประมาณให้เหลือรังไข่ 3-4 ฟอง กำลังดี หลังจากไข่แล้วนกตัวเมียจะกกไข่และลูกนกเริ่มออกมาเมื่อประมาณวันที่ 11 จากนั้นทั้งตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันเลี้ยงลูก ข้อควรระวังจากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง นกชนิดนี้โดยเฉพาะตัวพ่อจะชอบไล่ตีลูก เมื่อลูกลงรังมาแล้ว (เทคนิคให้แยกตัวพ่อออกไปก่อนไว้ลูกโตกินเองได้แล้วให้แยกลูกออก แล้วค่อยนำพ่อกลับเข้ามาในกรงเพาะต่อ)
           สายพันธุ์สีของซีบร้าฟินซ์ สีธรรมดาจะแตกต่างกันมากระหว่างนกที่เพาะพันธุ์ได้กับนกที่อยู่ที่ถิ่นกำเนิดโดยเฉพาะเรื่องสีตามทฤษฎีนั้น ขณะนี้สามารถแปรผันไปได้ประมาณ 59 สี ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นเป็นการทำ Mutation ของนกสีธรรมดา ตามหลัก Monohybird Crossing สีที่เพาะพันธุ์ได้ขณะนี้มีด้วยกันอยู่มากมาย ซึ่งแยกเป็นกลุ่มได้ดังนี้
-สีธรรมดา(Normal) เป็นสีที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด
-สีเทาปนเหลือง (Fawn) เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเมลานินมาจากนกธรรมดาเป็นเสีเทา
-นกพายด์ (pied) เป็นการทำงานของยีนแบบมัลติฟังค์ชั่น มีสีบนตัวตั้งแต่ 2 สี ซึ่งพัฒนามาจากนกธรรมดาเช่นกัน











ที่มา: http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=numthip25&month=07-11-2011&group=15&gblog=2



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น